วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ORPHAN 2009 [เด็กนรก]





--------อย่างที่เกริ่นไว้ในเอนทรี่ที่แล้วสำหรับเรื่อง Orphan กับชื่อไทยโดนๆว่า "เด็กนรก" คาระวะคนตั้งชื่อ3จอก
หนังเรื่องนี้อยากดูตั้งแต่เห็นโปสเตอร์เลยทีเดียว โดยไม่ได้สืบหาว่าเป็นหนังแนวไหน แต่ก็พอๆจะเดาได้อยู่แล้ว ยัยเอสเทอร์ซึ่งแสดงโดย อิซาเบล เฟอร์แมน(Isabelle Fuhrman) เต๊ะหน้าโหดขึ้นกล้องขนาดนั้น เช่นกันหนังเรื่องนี้คือ ผลงานล่าสุดของ Dark Castle ซึ่งเราไว้ใจดั่งเป็นญาติกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนว่าจะไม่ผิดหวัง ซึ่งก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ




เรื่องราวเริ่มต้นโดยที่ จอนห์(Peter Sarsgaard)และเคท(Vera Farmiga) โคลแมนสูญเสียลูกสาวเพราะดันแท้งก่อนที่จะลืมตาดูโลก พวกเค้าจึงตัดสินใจอุปการะเอสเธอร์ (อิซาเบล เฟอร์แมน)จากบ้านเด็กกำพร้า โดยไม่รู้ว่าภายใต้ความน่ารัก แอ๊บแบ๊วของเอสเธอร์นั้นมีความลับดำมืดซ่อนอยู่ ในตอนแรกๆเอสเธอร์ดูจะเป็นที่รักของครอบครัวดียกเว้นก็แต่ แดเนียล (Jimmy Bennett)ลูกชายของ จอนห์และเคท ที่ดูจะตั้งตนเป็นศัตรูกับเอสเธอร์ตั้งแต่ก้าวพ้นธรณีประตูมา ไม่นานเอสเธอร์ก็เริ่มออกลายราวกับเสือชีต้า นอกจากนั้นชียังบงการให้ แม็กซ์(Aryana Engineer)ลูกสาวตัวน้อยของครอบครัวโคลแมนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมาตั้งแต่กำเนิด ทำสิ่งชั่วร้ายที่ใครก็คงคาดไม่ถึง แต่ก็มีเพียง เคท และลูกๆอีก2คนเท่านั้นที่รับรู้ถึงความผิดปกตินี้ ความผิดปกติบางอย่างของเอสเธอร์ อะไรที่เธอซ่อนไว้ อะไรที่ครอบครัวโคลแมนกำลังเผชิญ ต้องพิสูนจ์ด้วยตัวคุณเอง!!!



ความรู้สึกหลังดูจบ

อยากจะกรี๊ดเพราะ หมั่นไส้นัง เอสเธอร์มาก ชีนรกได้ใจ มารยานี่เทียบเทียมตัวร้ายในละครไทยได้เลย เลยลองเอาชื่อเธอไปค้นในGoogleปรากฏว่าตัวจริงเธอก็น่าตาน่ารักไม่หยอกไม่ดูน่ากระโดดถีบยอดอกเหมือนในเรื่องเลย ขอชมน้องอิสเบล่า ว่าชีแสดงได้ "ถึง"จริงๆ ดำเนินเรื่องได้โอเค มีให้ตกใจกันพอหอมปากหอมคอ แถมจบแบบหักมุมด้วยไม่ใช่ว่ามานรกกันอย่างเดียว ส่วนตัวแอบไปหาสปอยตอนจบก่อนที่จะดูมาแล้ว แบบว่าอดใจไม่อยู่ ถ้าไม่รู้มันอนไม่หลับ อึไม่ออก ฉากโหดๆก็มีบ้างแต่ไม่เยอะซึ่งล้วนแต่กระทำโดยยัยเอสเธอร์ทั้งสิ้น ชอบที่ชีระเบิดภูเขา เผากระท่อมมากมาย มันพิสูนจ์ว่าชีจิตมากมาย ใครคิดจะหามาดูก็อย่าลังเลดูได้ไม่เสียจ้า




----สอนให้รู้ว่า "เอาลูกคนอื่นมาเลี้ยง ก็เหมือนเอาเมี่ยงเขามาอม"มันก็ขมเป็นธรรมดา----

HOUSE OF WAX 2005 [บ้านหุ่นผี]



House Of Wax หนังสยองขวัญ ในบ้านขี้ผึ้ง ที่รีเมคมาจากหนังในชื่อเดียวกันของปี 1953 โดย Dark Castle ซึ่งผลงานชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เราหาหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆของDark Castle อย่าง Gothika,Ghost Ship,13 Ghost หรือ ล่าสุดคือเรื่อง Orphan มาดู และจะมาแนะนำกันในเอนทรี่ต่อๆไป แน่นอนว่า House Of Wax คือหนังที่มีส่วนผสมที่ลงตัวเหมาะเจาะที่สุดของ Dark Castle การหลอกคนดูที่แนบเนียน จนทำให้ต้องเอาหนังกลับมาดูอีกซึ่งจะพบจุดที่หนังพรางเอาไว้ตอนแรกอย่างแยบคาย ดูแล้วต้องร้อง "อ๋อ!อย่างงี้นี่เอง"



หนังเรื่องนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือ การรวมเอาดาราวัยรุ่นหน้าตาดีอย่าง Paris Hillton,Elisha Cuthbert,Chad Michael Murray,Jared Padalecki มารวมไว้อย่างคับคั่ง



ตามสูตรเรื่องนี้ดำเนินไปโดยกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังจะไปชมการแข่งขันฟุตบอลมหาวิทยาลัยรอบสุดท้าย ซึ่งพวกเค้าตัดสินใจที่จะตั้งแคมป์ไฟในลานโล่งที่ไม่มีเจ้าของ เช้าวันรุ่งขึ้น เว็ด(Jared Padalecki )ก็พบว่ารถของเค้าสายพานขาดจากฝีมือใครบางคน เค้าตัดสินจะไม่ทิ้งรถไว้ตามความเห็นของเพื่อน และยืนยันที่จะอยู่ที่นี้และบอกให้เพื่อนไปดูการแข่งขันได้เลย เพื่อนๆจึงโอเค เค้าได้พบกับชายแปลกหน้าที่ดูไม่น่าไว้ใจที่ประทังชีวิตด้วยการเก็บซากสัตว์ข้างทางไปทิ้ง ชายแปลกหน้าอาสาที่จะพาเว็ดไปปั้มที่แอมบรอสซึ่งเป็นเมืองเล็กๆห่างไปไม่กี่ไมล์ เว็ดตกลงเพื่อจะไปหาซื้อสายพานมาเปลี่ยนโดยมี คาร์ลี่ย์ (Elisha Cuthbert)แฟนสาวติดตามไปด้วย ที่แอมบรอสทั้งคู่ได้พบกับ บ้านขี้ผึ้งทรูดี้ ที่ตัวบ้านและทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านทำมาจากขี้ผึ้ง โดยหารู้ไม่ว่าภายตายขี้ผึ้งที่ฉาบอยู่นั้นเป็นสิ่งที่พวกเค้าไม่มีวันคาดถึง!!!





ความรู้สึกหลังดูจบ

ประเด็นสำคัญอีกอย่างของหนังที่ต้องการจะสื่ออีกอย่างคือ ประเด็นของ ความเป็นพี่น้อง อย่างคู่พี่น้อง นิค(Chad Michael Murray)และ คาร์ลี่ย์(Elisha Cuthbert)ซึ่งทั้งคู่เป็นคู่แฝด(ชายหญิง)ที่นิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว ซึ่งถ้าสังเกตหนังดีๆตัวฆาตกรนั้นก็เป็นคู่แฝด(ชายชาย)เช่นกันมิหนำซ้ำยังเป็นแฝดที่ตัวติดกันตั้งแต่เกิด ส่งผลให้แฝดอีกคนนึงมีหน้าตาอัปลักษณ์เนื่องจากการผ่าตัดแยกร่างจนต้องใช้หน้ากากที่ทำจากขี้ผึ้งอำพรางใบหน้าไว้ตลอดเวลา ในยามที่ภัยมาถึงตัวสายสัมพันธ์พี่น้องที่ดูจะเบาบางก็กลับมาเด่นชัดขึ้นได้ นิคและคาร์ลี่ย์ช่วยเหลือกันเพียงเพื่อจะออกไปให้พ้นจากเมืองนรกนี้ เช่นกัน ฆาตกรฝาแฝดสามัคคีกันอย่างดีในการฆ่าคนและจับมาอาบขี้ผึ้ง กระบวนการที่เหมือนกันแตกต่างกันเพียงแค่จุดประสงค์ อีกทั้งที่กล่าวไว้ในตอนต้น คือการหลอกคนดูได้อย่างแนบเนียนอย่างฉากที่คาร์ลี่ย์เปิดประตูเข้ามาในโบสถ์หนังทำให้เมืองเล็กๆที่เต็มไปด้วยศพอาบขี้ผึ้งมีชีวิตขึ้นมาได้อย่างแนบเนียนจนคนดูอย่างเราไม่สงสัยเลยในตอนแรก ในตอนท้ายหนังยังทิ้งประเด็นให้ผู้ชมได้ไปจินตนาการกันต่อ ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้หนังเรื่องนี้ เป็นหนังสยองขวัญ "ที่ดีที่สุด" ของเราและของใครอีกหลายคน โดยที่ไม่ต้องพึ่งความโหด ไส้แตก เลือดสาดเหมือนเรื่องอื่นๆ
-------------------นั่นทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญน้ำดีที่คุณควรหามาดู--------------------



---------------------------------"สามัคคี คือ พลัง"เป็นแบบนี้นี่เอง-----------------------------

TAKEN 2008 [สู้ไม่รู้จักตาย]



หนังบู๊ โหดๆมันส์ ของป๋า เลียม นิลสัน (Liam Neeson)ซึ่งรับบทเป็น ไบรอัน มิลส์ (Bryan Mills)คุณพ่อเมียหย่าที่ทำงานเป็นบอดี้การ์ดให้กับนักร้องดัง แน่นอนว่าลุงแกจะได้ชกหน้าและจิกกะบาลคนทุกวัน ไบรอันมีลูกสาว ซึ่งเป็นลูกจากเมียเก่าที่ไปแต่งผัวใหม่ซึ่งเป็นเศรษฐีที่ร่ำรวย ต่างจากเค้าที่งานรัดตัวจนไม่มีเวลาให้ลูกเมียเป็นที่มาของการหย่าร้าง แต่กระนั้นก็ยังได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูกสาวร่วมกัน ลูกสาวจึงต้องอ้อนวอนให้พ่อเซ็นต์ยอมรับที่จะอนุญาติให้เธอไปเที่ยวฝรั่งเศสกับเพื่อน แน่นอนในตอนแรกไบรอันไม่ยอมเนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภับของลูกสาว จนถูกภรรยาเก่าขอแกมบังคับจึงยอมให้ไป อีกทั้งกลัวลูกสาวจะไม่รักตน แต่ก็กำชับอย่างดีว่าถ้าถึงปารีสแล้วให้โทรกลับบมาหาเค้าทันที ลูกสาวทำตามนั้นก่อนที่จะถูกแก๊งค์ค้าเนื้อสด(ไม่ใช่พวกเขียงหมูนะเออ)ลากตัวไปทั้งเพื่อนและตัวเองในระหว่างคุยโทรศัพท์กับพ่อ ข้อมูลของคนร้ายเพียงเล็กน้อยเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอได้บอกพ่อก่อนสายจะถูกตัดไป
ปัญหาอยู่ที่ว่า ไบรอัน อยู่ที่อเมริกาส่วนลูกสาวหายไปในฝรั่งเศส ไบรอันจะช่วยลูกสาวได้ทันเวลาไหม ต้องไปติดตามกันต่อเอง(ซะงั้นอ่ะ)


ความรู้สึกหลังดูจบ

มันส์ ฉากบู๊สุดๆ ฉากที่ลูกสาวบอกพ่อระหว่างโทรศัพท์ว่ามีคนบุกรุกเข้ามาในห้องและจับเพื่อนไปแล้วเป็นฉากที่เราชอบที่สุดในเรื่องเพราะเล่นได้ดีทั้งคุณพ่อและคุณลูกโดยเฉพาะ เลียม นิลสัลนั้น เล่นได้"ถึง"จนสงสารจริงๆที่แกทำอะไรไม่ได้เลยตอนลูกสาวถูกจับตัวไป และหนังยังโชว์ความเก่งเว่อร์ของพ่อไบรอันจนเราคิดว่าไม่น่าเป็นแค่บอดี้การ์ดกิ๊กก๊อกเลย ไปทำให้กับ กลาโหมหรือ เป็นการ์ดในทำเนียบดีกว่าตอนสู้กับผู้ร้ายพี่แกไม่ค่อยเสียท่าผู้ร้ายเท่าไหร่เลย สู้ได้ไม่รู้จักตายสมชื่อเรื่อง หนังดำเนินเร็วและไม่อืดอาดหรือซับซ้อนเกินไปถ้าคุณอยากดูเอามันส์ คิวบู๊ดีๆ ไม่อยากเห็นพระเอกเสียท่าสะดุดเปลือกกล้วย ก็ไปหามาชมได้ไม่ต้องคิดมากเลย แต่ถ้าต้องการหาเหตุผลหรือความสมจริงของหนังก็ผ่านได้เลยเจ้าคะ




แล้วคุณจะรู้ซึ่งถึงประโยคที่ว่า "ลูกฆ่าใครอย่าแตะ"


วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

DEATH SENTANCE 2007 [คนคลั่งฆ่าสั่งตาย ]




มาถึงหนังแอคชั่นสุดโปรดตลอดกาลของเจ้าของBlogกันบ้าง หนังเรื่องนี้นำแสดงโดยป๋า เควิน เบคอน(Kevin Bacon) ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกและเรื่องเดียวของป๋าที่เราได้ชม กระแสของคนที่ชอบหนังด้วยกันต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า TAKEN[สู้ไม่รู้จักตาย]ของเลียม นิลสัน ดูจะสนุกกกว่าเรื่องนี้ซึ่งเป็นหนังที่มีพล็อตคล้ายๆกันคือพ่อที่ตามล้างบางคนที่ทำร้ายลูก จะต่างกันก็ตรงที่ในTAKENลูกสาวของคุณพ่อเลียมนั้นยังไม่ตายแต่ถูกลักพาตัวไป ส่วนในDSนั้นลูกชายของคุณพ่อ เควินถูกเชือดคอตายไปต่อหน้าต่อตาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วโดยที่คนเป็นพ่อทำอะไรไม่ได้แม้จะรู้ตัวผู้กระทำ ความอยุติธรรมของกฏหมายที่ดูเหมือนจะเพาะพันธุ์ไปทั่วทุกทีสามารถเอาผิดได้เพียงเล็กน้อยไม่สาสมแก่ความผิดที่กระทำ






เค้าจึงตัดสินใจยกฟ้องและไม่เอาเรื่อง แต่เรื่องไม่จบแค่นี้แน่นอน อย่างที่เค้าว่า ความโกรธ ความแค้นนั้นสามารถเปลี่ยนคนดีให้กลายเป็นคนบ้าได้ นิค ฮูม(Kevin Bacon)ตัดสินใจครั้งใหญ่หลวงไม่แม้จะปรึกษาภรรยาก่อน โดยการติดตามกลุ่มวัยรุ่นขี้ยาที่ทำร้ายลูกชายจนไปเจอรังของมัน และจัดการเอามีดปอกมะม่วงที่เตรียมมาแทงเจ้าคนที่ฆ่าลูกชายจนตายเสร็จสมอารมณ์หมายไปในที่สุด เรื่องราวดูเหมือนจะจบ นิคไปทำงานที่บริษัทเหมือนปกติ ดำเนินชีวิตที่เหลือกับครอบครัวต่อไป ไม่นานกลุ่มวัยรุ่นขี้ยาที่เหลือรู้ข่าวการตายของสมาชิกใหม่ก็เป็นเดือดแทน แถมคิดจะแก้แค้นให้เพื่อนแบบสาสม นิค ฮูม จึงต้องเหนื่อยต่อ โดยที่ไม่รู้ว่าความยุติธรรมที่เค้าต้องการนั้น ต้องแลกด้วยอะไรอีกหลายอย่าง...



ความรู้สึกหลังดูจบ

ซึ้งในความรักของคุณพ่อที่มีต่อครอบครัวมากๆ สำหรับเราที่ชอบหนังเรื่องนี้มากกว่าTAKENก็เพราะคุณพ่อในDSนั้นเป็นเพียงคุณพ่อธรรมดาที่ทำงานบริษัท ไม่เคยเข่นฆ่าใครมาก่อน ต่างจากในTAKENที่คุณพ่อทำงานเป็นการ์ดดูแลนักแสดงดังๆ เป็นอาชีพ ในDSนั้นคุณพ่อดูมีเลือดเนื้อ และดูเหมือนจะตายได้ตลอดเวลา ชอบพัฒนาการในหนังที่ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงจากความแค้นไปเรื่อยๆ จนท้ายเรื่องหนังก็นำเสนอให้เห็นว่า การแก้แค้นไม่ทำให้อะไรดีขึ้นจริงๆ ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่คุณควรขวนขวายหามาดูเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่เคยดู


A Perfect getaway 2009[เกาะสวรรค์ขวัญผวา]




ได้ดูทริลเลอร์เรื่องนี้ก็รู้สึกว่าน่าสนใจมาก โดยเฉพาะคำโปรยเก๋ๆบนโปสเตอร์ที่ว่า
6 STRANGERS.
2 KILLERS.
1 PARADISE ISLAND.
อะไรมันจะเกิดขึ้น เมื่อ 6 คนแปลกหน้า 2ฆาตกร ทั้งหมดอยู่ในเกาะสวรรค์แห่งนี้!!!!!
ทั้งยังแสดงนำโดย Milla Jovovich จาก Resident Evil ขวัญใจเราอีกคนจึงไม่สามารถพลาดได้ด้วยประการทั้งพวง เอ้ย! ปวง ^..^!!!




เรื่องก็มีอยู่ว่า คลิฟฟ์ (Steve Zahn) กับ ซิดนี่ย์ (Mila Jovovich) วางแผนกันจะไปฮันนี่มูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันที่ ฮาวาย หลังจากที่เพิ่งแต่งงานกันมาหมาดๆ ขณะที่เค้าทั้งคู่กำลังดื่มด่ำบรรยากาศของเกาะสวรรค์ฮาวาย พวกเค้าก็ได้รู้จักกับสามี-ภรรยาอีกคู่ที่ดูจะรักกันดีอย่าง นิก (Timothy Olyphant) และ จีน่า (Kiele Sanchez) รวมถึงคู่สามีภรรยาที่ดูเหมือนจะทะเลาะกันตลอดเวลาอย่าง เคล(Chris Hemsworth) และ คลีโอ(Marley Shelton)ที่มาพักผ่อนที่นี่เช่นกัน
รวมถึงมีข่าวไม่ค่อยดีนัก ว่ามีฆาตกร2ผัวเมียออกอาละวาดฆ่านักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนอยู่ที่เกาะใกล้ๆ และยังไม่สามารถจับตัวฆาตกรได้ ไม่แน่ว่าพวกเค้าอาจลอยนวลอยู่ที่เกาะแห่งนี้ก็เป็นได้

คลิฟฟ์และซิดนี่ย์ รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลของ สามี-ภรรยาทั้ง2คู่นี้เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ใครกันแน่เป็นฆาตกร ทั้งคู่จะรอดชีวิตไปจากเกาะสยองนี่ได้หรือไม่ เมื่อการมาพักผ่อนที่ดูจะเพอร์เฟคไม่เพอร์เฟคอีกต่อไป!!!



ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังทำให้คนดูอย่างเราสงสัยตลอดเวลาว่าใครจะเป็นฆาตกร หลอกล่อทำให้เรารู้สึกสงสัยตัวละครทุกตัวที่2ผัวเมียต้องพบเจอ ซึ่งมันก็ดูจะน่าสงสัยไปหมด ซึ่งสำหรับเราแอบเดาถูกตั้งแต่ต้นๆเรื่อง มีช่วงที่หนังอืดไปบ้าง แต่บรรยากาศของเกาะฮาวายก็ทำให้ลืมความเลี่ยนไปเลย นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ชอบมากที่สุดก็คือ คู่เคลและคลีโอตอนที่พวกเค้าขออาศัยรถ คลิฟฟ์ และ ซิดนี่ย์ แต่ก็ถูกไม่ไว้วางใจตั้งแต่แรกดูเหมือน2คู่นี้จะทำหน้าเบื่อโลกตลอดเวลาแถมได้บทน้อยอีกตะหาก ช่วงกลางๆเรื่องเริ่มระทึกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีอะไรยังระทึกได้ไม่สุด ถึงตอนที่ปมเฉลยว่าฆาตกรเป็นใครก็ใส่มาโครมเดียวทำเอาคนดูอย่างเราแทบหงายหลัง ตีลังกา15ตลบ และยังขาดความสมเหตุสมผลบ้างในบางเรื่องแต่ถ้าไม่สนใจและมองข้ามจุดนี้ไปหนังเรื่องนี้ ก็เป็นหนังที่คุณควรหามาดู
(แก้เซ็ง)เรื่องหนึงเลยทีเดียว

“หนังเรื่องนี้สอนให้คุณรู้ว่าอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า”

ข้อควรระวัง ถ้าคุณอยากดูหนังเรื่องนี้ให้ได้อรรถรส สิ่งที่ไม่ควรทำคือ การหารูป หรือ ข้อมูลต่างๆของหนังเพราะอาจเปิดเผยส่วนสำคัญที่จะทำให้เสียอรรถรสในการชม อ่านเรื่องย่อหลังปกก็น่าจะพอ